เรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการฝึกโยคะ
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกันก่อนนะคะ ดิชั้นชื่อ ครูเกรซ เป็นครูสอนโยคะ คนหนึ่งในอำเภอหัวหิน และชะอำ ทำงานอยู่สองจังหวัดคู่ซี้กัน คือเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
ความที่เป็นครูสอนโยคะมานาน จึงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับความรู้ด้านโยคะมาเป็นของฝากคุณผู้อ่าน
วันนี้เรามาพูดกันถึงเรื่อง ที่มาของการเป็นโยคะ กันก่อนนะคะ
ปัจจุบันโยคะได้รับความนิยมแพร่หลาย หลายคนกลัวๆกล้าๆ กับการเล่นโยคะ เมื่อเห็นท่าแนวหักแข้งหักขา ประมาณว่า ถ้าตูไปทำ กระดูกตูจะหักมั้ยเนี่ย แต่ในความเป็นจริง ท่าเหล่านั้นเกิดจากการฝึกฝนฝึกซ้อมเป็นเวลาหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้เล่น และเมื่อทำได้แล้วกลับรู้สึกสบายในการทำหรือค้างท่า ‘หักแข้งหักขา’เหล่านั้น ต้องลองถึงจะรู้ค่ะ
การฝึกโยคะนั้นมีมานานหลายพันปีแล้วนะคะ
โดยนักโบราณคดีได้ขุดพบไม้แกะสลักและศิลปะรูปปั้นที่แสดงถึงการฝึกโยคะ หุบเขาแห่งอินดัส วอลเลย์ ศิลปะเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยประชาคมที่มีความเจริญเป็นอย่างสูง ซึ่งเจริญอยู่ในพื้นที่แถบนั้นช่วง 2,000 และ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช (ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของประเทศปากีสถาน)
โยคะคือ การบริหารกาย ลมหายใจ และการผ่อนคลาย (อาสนะและปราณายามะ)
คำว่าอาสนะมาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤตว่าอาส หมายถึง มีอยู่ อาศัยอยู่ใน นั่งเงียบๆ อยู่อาศัย พำนัก
ในทาง โยคะ อาสนะจึงหมายถึง ท่าและตำแหน่งต่างๆในการฝึก เช่น การยืนด้วยศีรษะ (ศีรษะอาสนะ) ท่าดอกบัว (ปัทมอาสนะ) ฯลฯ ซึ่งโยคะเป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่มีประโยชน์ด้านความอ่อนตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและสมาธิ ท่าฝึกหลายท่ายากและมีอัตราความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บสูง ฉะนั้นผู้ฝึกควรศึกษาให้รู้จริงและระมัดระวังมากที่สุด
การฝึกโยคะนั้นต่างจากการออกกำลังกายแบบอื่นๆ จุดประสงค์ของการฝึกอาสนะไม่ใช่การพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ แต่เพื่อฟื้นฟูจิตของกายให้กลับมาสู่สภาวะความเป็นอยู่ที่ดี ผ่อนคลาย และตื่นตัวอยู่เสมอ
รู้อย่างนี้แล้ว ลองหาเวลาว่างให้ตัวเอง มาฝีกโยคะกันนะคะ