เป็น มะเร็งตับ ได้ไง?
ทุกๆวันมีคนเสียชีวิตด้วยโรค มะเร็งตับ เฉลี่ยวันละ 55 คน
หรือเทียบได้กับทุกๆชั่วโมงมีคนเสียชีวิต ชั่วโมงละ 2 คน
ที่อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักๆมาจากความชล่าใจ คิดว่าไม่เป็นหรอก คงไม่ซวยขนาดนั้น ฉันก็ดูแลตัวเองนะ กินดื่มนิดหน่อยเอง แล้วไม่ค่อยเช็คสุขภาพ ไม่ต้องรอแก่ก็เช็คสุขภาพได้ค่ะ อย่าคอยพูดแต่ว่า “ยังไม่แก่ ยังไม่ถึงเวลา” แถมไม่ดูแลสุขภาพซ้ำไปอีก แล้วหนำซ้ำผู้ป่วยมะเร็งระยะแรกๆจะไม่แสดงอาการ เนื่องจากเส้นประสาทกระจายตัวอยู่บริเวณผิวหนังของตับ อาการจึงมักแสดงในระยะท้ายๆ ซึ่งกว่าจะรู้ก็เกือบสายเสียแล้ว สาเหตุของโรค มะเร็งตับ มีหลายสาตุด้วยกัน หลักๆเลย คือ
- จากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไวรัสตับอักเสบซี ซึ่งติดต่อทางเลือดและเพศสัมพันธ์
- โรคตับแข็งจากการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เกิดไขมันพอกตับ กลายเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด
- ไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้
- การได้รับยาหรือสารเคมีบางชนิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
- โรคทางพันธุกรรมและเมตาบอลิคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ทำให้เกิดไขมันเกาะตับและตับแข็งตามมา
- การได้รับสารพิษ เช่น สารอะฟลาท็อกซินที่ปนเปื้อนมากับเมล็ดพืช เป็นต้น
ดังนั้นเราป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช็คสุขภาพเป็นประจำ ตรวจเลือดเพื่อหาไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซีที่เป็นตัวต้นเหตุของโรคมะเร็งตับเราก็สามารถเลี่ยงการติดเชื้อ ลดโอกาสเป็นมะเร็งตับได้แล้ว
ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) มีรายการตรวจเบื้องต้นอะไรบ้าง
- HBs Ag เป็นการตรวจเพื่อหาตัวเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- Anti-HBs เป็นการตรวจหาว่าร่างกายเรามีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือยัง ซึ่งหากร่างกายเราเคยติดเชื้อแล้วและหายแล้วก็จะตรวจเจอแอนติบอดีที่ร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งจะอยู่กับเราไป 60 ปี และสามารถสร้างขึ้นได้จากการฉีดวัคซีน ซึ่งจะอยู่กับเรา 15-20 ปี ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้
- Anti-HBc เป็นการตรวจหาเชื้อเพื่อดูว่าเรามีพาหะของเชื้อหรือไม่ ซึ่งหากผลตัวนี้ให้ผลบวก นั่นหมายถึงเราติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีซึ่งจะทำให้โอกาสหายแล้วร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นนั้นเป็นไปได้ยากมากขึ้น ทำให้มีโอกาสกลายเป็นตับแข็งและมะเร็งตับตามมาได้
ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C)
- Anti-HCV เป็นการตรวจหาแอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายเราสร้างขึ้นเมื่อเคยได้รับเชื้อและหายแล้ว เชื้อไวรัสตับอักเสบซีอันตรายตรงที่ไม่มีวัคซีน
ในกรณีที่ตรวจพบผลเป็นบวก ควรตรวจเช็ค HCV viral load เพื่อเป็นการเช็คว่ามีการติดเชื้ออยู่หรือเป็นภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นหลังจากหายแล้วเพียงอย่างเดียว
ไม่มีใครอยากติดเชื้อและไม่มีใครอยากเป็นโรคใดๆทั้งนั้น การดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย พฤติกรรมการกินการใช้ชีวิตประจำวันสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้ร่างกายและระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่ และยิ่งไปกว่านั้นอาการไม่สามารถบอกได้ว่าเราเป็นโรคอะไรและโรคบางโรคก็เป็นได้โดยไม่แสดงอาการ แต่การตรวจเลือดสามารถบอกคุณได้ไม่ว่าคุณจะแสดงอาการหรือไม่
รู้เร็ว รักษาได้เร็ว หายเร็ว ไม่ต้องมานั่งกลุ้ม ยังไงๆกันไว้ย่อมดีกว่าแก้เสมอ
หมั่นเช็คสุขภาพกันนะคะ ^^