เมื่อก่อนผู้เฒ่าผู้แก่มักจะบอกว่าคนที่ ผิวสวย คือที่มีบุญบารมี ดังนั้นต้องหมั่นสร้างบุญจะได้ ผิวสวย
แต่แท้จริงแล้ว ผิวสวย นั้นสามารถบำรุงได้ ไม่ว่าจะจากการกินเพื่อบำรุงจากภายในและ การบำรุงจากภายนอก ทุกคนมีผิวสวยได้ไม่ว่าจะสีผิวแบบไหนก็ตาม
แล้วลักษณะผิวสุขภาพดี คือยังไงบ้างนะ
- ผิวเรียบเนียน
- สีผิวมีความสม่ำเสมอ
- ผิวมีความแข็งแรง
- ผิวมีความชุ่มชื้น
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีสีผิวสีแทน สีเข้ม สีน้ำผึ้ง สีขาวเหลือง หรือขาวอมชมพู คุณก็สามารถมีผิวสวยได้ วันนี้แอดจึงจะมาบอกทุก ๆ คน ถึงอาหารผิวและการบำรุงผิวทั้งภายในและภายนอก
ก่อนอื่น เรามาเข้าใจกันก่อนนะคะว่า จริง ๆ แล้วผิวต้องการอะไร แล้วเราจึงจะสามารถบำรุงได้ถูกวิธี
ผิวหรือสีผิว สร้างมาจากเม็ดสี (Melatonin) ซึ่งเม็ดสีก็สร้างมาจากเซลล์ผิวหนัง (Melanocyte) โดยเซลล์ผิวหนังจะสร้างสารเมลานินบรรจุในแคปซูล เรียกว่า ถุงเม็ดสี (Melanosome) โดยถุงเม็ดสีสามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1 ยูเมลานิน (Eumelanin) คือเม็ดสีออกโทนดำและน้ำตาล
2 ฟีโอเมลานิน (Pheomelanin) คือเม็ดสีที่ออกโทนแดงและชมพู
3. แบบผสม (Mixed Melatonin)
ซึ่งในกระบวนการสร้างเม็ดสีนี้ สิ่งที่มีบทบาทมากที่สุดคือ เอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) สารที่มีบทบาทรองลงมา คือ กลูต้าไธโอน (Glutathione) และซีสเทอีน (Cysteine)
ก่อนอื่นเราต้องเลี่ยงปัจจัยหรือพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะที่ก่อให้เกิดการทำลายผิวของเราก่อน ไม่ว่าจะเป็น หลีกเลี่ยงแดดจัด การนอนหลับไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุรี่ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บางกลุ่มที่อาจจะใส่สารพวกไฮโดรเจนเปอร็อกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างรวดเร็ว เพราะสารดังกล่าวจะไปกัดเซลล์ผิว หรือที่เรียกว่าฟอกสีผิว ซึ่งขาวจริงแต่ต้องแลกมากับปัญหาผิวระยะยาว
ดังนั้นแล้วการบำรุงที่ดีที่สุด คือการบำรุงให้เกิดขึ้นจากภายใน และความเข้าใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
การบำรุงจากภายในเริ่มต้นง่าย ๆ จาก
- น้ำเปล่า การดื่มน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบำรุงผิว เพราะน้ำเปล่าช่วยคงความชุมชื้นให้ผิว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆในร่างกายให้ดูดซึมอาหาร ขับของเสีย และทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีอีกด้วย
- อาหารผิว
- โคเอนไซม์คิวเทน (CoQ10) มีบทบาทสำคัญในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาในร่างกายและจากสภาวะภายนอก จึงป้องกันกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมถึงป้องกันการทำลาดีเอ็นเอ (DNA) ได้ด้วย
- แอล-ซีสเทอีน (L-Cysteine) เป็นกระอะมิโนที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้แต่ปริมาณน้อย ซึ่งเราสามารถได้เพิ่มจากการกินอาหารประเภทโปรตีน เพราะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย กระตุ้นการสร้างกลูต้าไธโอนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง และยิ่งไปกว่านั้นคือ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์อื่นๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอมต่างๆ รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรส ทำให้อาการโรคติดเชื้อต่างๆหายเร็วมากยิ่งขึ้น
- สารสกัดมะขามป้อม (Amla extract) จากงานวิจัย กรมวิทย์ฯ พบว่าสารสกัดจากมะขามป้อมอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง มีบทบาทเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอล-ซีสเทอีน ซึ่งช่วยรักษาปริมาณกลูต้าไธโอนในร่างกาย
- ซีลีเนียม ช่วยปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุให้ผิวแห้ง และเกิดริ้วรอย ซีลีเนียมยังสามารถป้องกันจุดด่างดำ อาการผิวไหม้จากแสงแดด และป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย
- สังกะสี (Zinc) มีส่วนช่วยซ่อมแซมความเสียหายของผิวหนังและทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย สังกะสีนั้นเป็นส่วนประกอบในการทำงานของต่อมไขมันในการผลิตน้ำมันให้ผิวโดยตรง ดังนั้นหากขากสังกะสี อาจส่งผลให้ผิวมันได้
- ฟอลลินอล พบมากในชาเขียว เพราะสามารถยับยั้งการอักเสบหรือการบาดเจ็บของผิวหนัง รักษาสิว ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของดีเอ็นเอ
- ไฟโตเอสโทรเจน พบมากในอาหารที่ไม่ผ่านการดัดแปลง ซึ่งช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล และ ชะลอความเหี่ยวย่นของผิวหนังก่อนวัยอันควร
- วิตามินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- วิตามินเอ : เป็นวิตามินที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากแสงแดด และยังสามารถทำให้ริ้วรอยและจุดด่างดำดูจางลงได้อีกด้วย
- วิตามินอี : เป็นแหล่งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ แล้วยังช่วยป้องกันผิวหนังไม่ให้แสงแดดทำร้ายจนเกินไป ซ้ำยังทำให้ผิวหนังแลดูสุขภาพดีจากภายในด้วย
- วิตามินซี : ช่วยรักษาคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำลาย ทั้งยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
เชื่อไหมว่า สารอาหารที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เราสามารถได้รับในปริมาณที่พอเหมาะจากอาหาร ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกรับประทานที่มีประโยชน์ หรืออาหารครบ 5 หมู่นั่นเอง เพราะร่างกายเราต้องการอาหารทุกประเภทในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน อย่าลืมออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และนอนหลักพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดนะคะ
เพราะไม่ว่าคุณจะบำรุงหนักแค่ไหน แต่ไม่ให้เซลล์ไม่ได้มีโอกาสซ่อมแซมส่วนที่พัง ก็เหมือนเครื่องจักรที่ใช้งานไม่มีวันหยุด พังก็ไม่ซ่อม ไม่นานเครื่องจักรนั้นก็จะตาย