ก่อนหน้านี้ท่านคงจะเคยได้อ่านข่าวนึงซึ่งทำให้หลายๆท่านตกใจ และเศร้าใจจากเรื่องการเสียชีวิตของทารกน้อยที่เพิ่งคลอดได้เพียง 8 สัปดาห์ด้วยโรคเริมที่เกิดจากการแสดงความรักของพ่อผู้ให้กำเนิดที่มีต่อลูกน้อยด้วยการจูบ แต่กลับเป็นการคร่าชีวิตลูกน้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ แล้ว เริม คืออะไร
เริม คืออะไร
เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อ Herpes virus (HSV) เป็นสาเหตุที่สำคัญของการติดเชื้อเริมที่ผิวหนัง ริมฝีปาก อวัยวะเพศ และอาจจะติดเชื้อที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จนอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ลักษณะผื่นของโรค Herpes จะเหมือนกันไม่ว่าเกิดที่ไหน จะเป็นตุ่มน้ำเล็กๆบนผิวหนังที่อักเสบสีแดง
เชื้อ Herpes มีสองชนิดคือ
- Herpes simplex virus 1 (HSV-1) มักเกิดบริเวณปากและผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไปเกิดที่ปากเรียก Herpes labialis โรคนี้ไม่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- Herpes simplex virus 2 (HSV-2) เชื้อมักเกิดบริเวณอวัยวะเพศ และติดต่อโดยเพศสัมพันธ์เรียก Herpes genitalis
Herpes labialis
การติดต่อ
การติดต่อเชื้อนี้จะติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงเช่นการจูบ หรือการใช้ของร่วมกัน เช่น การใช้ใบมีดโกน การใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน หลังจากได้รับเชื้อ 7-10 วันจะเริ่มเกิดอาการแสบร้อนและตามด้วยตุ่มใสเล็กๆ ตุ่มใสนี้จะอยู่เป็นเวลา 7-10 วันแล้วจึงเริ่มหาย
อาการของเริม
- เริ่มด้วยอาการปวดแสบปวดร้อน คันๆบริเวณปากก่อนเกิดผื่น 2 วัน
- ต่อมาเกิดตุ่มใสที่ปากหรือริมฝีปาก ตุ่มอาจจะรวมกันเป็นแผลใหญ่
- อาจจะมีไข้ต่ำๆ
การวินิจฉัย
- จากลักษณะเฉพาะของผื่น
- จากการเพาะเชื้อ
- จาการตรวจ Tznack test
การรักษาเริม
- เมื่อเกิดอาการครั้งแรกในระยะตุ่มน้ำใส ควรรับไปพบแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยถูกต้องแน่นอน ซึ่งอาจได้รับยาที่ช่วยให้อาการระยะเฉียบพลันดีขึ้น
- รักษาความสะอาดของร่างกายรวมทั้งล้างมือให้สะอาดทันทีหลังจับต้องแผล เพราะอาจจะนำเชื้อไปสู่ส่วนอื่นของร่างกายได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น เช่น การจูบ ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกันโดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำเพาะมีโอกาสติดเชื้อง่าย
- ผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาอาจจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์
- ให้ทำความสะอาดผื่นด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ
- การรับประทานยาฆ่าเชื้ออาจจะทำให้หายเร็วขึ้น
การป้องกัน
- ระวังการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นเริมและยังมีผื่นในระยะติดต่อ
- อย่าใช้ของร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
———————————————————————————————————————————-
Herpes genitalis
เริมที่อวัยวะเพศส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ HSV-2 ผู้ที่ได้รับเชื้อส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการ หากมีอาการจะเกิดตุ่มน้ำที่อวัยวะเพศ เมื่อตุ่มน้ำแตกจะเกิดแผลเล็กซึ่งมีอาการปวดแสบปวดร้อน แผลเริมจะใช้เวลาหายประมาณ 2-4 สัปดาห์ เมื่อหายแล้วสามารถเกิดเป็นซ้ำได้
อาการของโรคเริม
เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน หรือกำลังมีอาการของโรคนี้อยู่ อาการเริ่มแรกจะมีตุ่มน้ำพองใสเป็นกลุ่ม มีอาการปวดแสบและคันมาก ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกออกเป็นแผล เมื่อแผลหายแล้วเชื้อไวรัสยังคงหลบซ่อนในปมประสาท และโรคจะกลับเป็นอีกเมื่อมีปัจจัยส่งเสริมบางอย่าง เช่น ความเครียด ภาวะขาดอาหาร แสงแดด การเสียดสีของผิวกับเสื้อผ้า เช่น กางเกงที่คับๆ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ได้รับการติดเชื้อครั้งแรกจะเกิดอาการหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 2 สัปดาห์แผลจะใช้เวลาหายใน 2-4 สัปดาห์ นอกจากนั้นจะมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ในปีแรกอาจจะมีการกลับเป็นซ้ำ 4-5 ครั้งต่อปี หลังจากนั้นความถี่ของการเกิดซ้ำจะลดลง
การติดต่อ
คนได้รับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อนี้ซึ่งจะเชื้อที่ตุ่มและแผล แต่การติดเชื้อก็สามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะไม่มีแผล นอกจากนั้นเชื้อ HSV-1 ยังทำให้เกิดเริมที่ริมฝีปากเชื้อว่าเชื้อนี้สามารถติดต่อแบบ ปากและอวัยวะเพศได้ oral-genital
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยทำได้โดยดูลักษณะผื่น และการนำสารหลั่งจากก้นแผลไปส่องกล้องจะพบเซลล์ที่มีลักษณะเฉพาะ
การรักษา
ยังไม่มียาที่รักษาโรคนี้ให้หายขาด ยาเพียงทำให้ลดอาการ และแผลใช้เวลาหายสั้นลง
โรคแทรกซ้อน
- ปวดที่แผล และส่งผลต่อภาวะเครียดของผู้ป่วย
- สำหรับผู้ที่มีภูมิบกพร่องอาการจะเป็นมาก
- หากติดเชื้อในช่วงใกล้คลอดอาจจะส่งผลเสียต่อทารก
- การติดเชื้อนี้จะเพิ่มการติดโรคเอดส์
การปฏิบัติตน
- รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศในระหว่างมีตุ่มน้ำมีแผลควรทำความสะอาด โดยแช่นำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง และซับให้แห้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
- งดการมีเพศสัมพันธ์หรือสัมผัสโดยตรงกับแผล
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์และกำลังเป็นโรคเริม หรือมีประวัติว่าเคยเป็นรวมทั้งผู้ที่ไม่ได้เป็น แต่สามีเป็นโรคนี้อยู่ ควรบอกประวัติเหล่านี้แก่สูติแพทย์ทุกครั้งด้วย เพราะอาจมีผลต่อเด็กในระหว่างคลอดได้
- ในรายเป็นครั้งแรกในระยะตุ่มน้ำควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และในรายเป็นซ้ำๆ ก็ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่นอนเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้โรคกำเริม เช่น อารมณ์เครียด แสงแดด การเสียดสีของผิวกับเสื้อผ้า
การติดเชื้อ Herpes simplex
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายและอยู่ในชั้นของผิวหนังเชื้อจะแบ่งตัว ทำให้ผิวหนังเกิดอาการบวมเป็นตุ่มน้ำและเกิดการอักเสบ หลังจากนั้นเชื้อจะเคลื่อนย้ายเข้าสู่ปมประสาท ganglia เป็นเวลานานโดยที่ไม่มีการแบ่งตัวถ้า หากปัจจัยแวดล้อมเหมาะสมเชื้อก็เกิดการแบ่งตัว และทำให้เกิดอาการเป็นซ้ำ ผู้ป่วยที่เป็นเริมที่ริมฝีปากจะมีอัตราการเกิดซ้ำประมาณร้อยละ 20-40 สำหรับเริมที่อวัยวะเพศจะมีอัตราการเกิดเป็นซ้ำประมาณร้อยละ 80 ปัจจัยที่กระตุ้นไม่แน่นชัด เชื่อว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับแสงแดด ไข้ การมีประจำเดือน ความเครียด ภูมิต้านตานภายในร่างกาย การเกิดเป็นซ้ำจะมีอาการน้อยกว่าและหายเร็วกว่าการเกิดเป็นครั้งแรก
อาการของการติดเชื้อ Herpes simplex
อาการเริมต้นจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนตำแหน่งที่ได้รับเชื้อ อาการของการติดเชื้อที่ปากและที่อวัยวะเพศจะเหมือนๆกันเพียงแต่ขึ้นกันคนละที่
- การเป็นครั้งแรก Primary Infection เริ่มด้วยอาการปวดแสบร้อน ต่อมาจะมีอาการบวม และอีก 2-3 วันจะมีตุ่มน้ำใสเกิดบนฐานสีแดงตุ่มน้ำแตกออกใน 24 ชั่วโมงและตกสะเก็ด ตุ่มอาจจะรวมเป็นกลุ่มใหญ่และเป็นแผลกว้างทำให้ปวดมาก แผลจะหายใน 2-3 สัปดาห์ ตำแหน่งที่พบได้บ่อยได้แก่ ปาก ริมฝีปาก ตา เมื่อแผลแห้งแล้วจะไม่ติดต่อระหว่างที่เป็นผื่นต่อมน้ำเหลืองใกล้ๆ อาจจะโต และอาจจะมีไข้ปวดเมื่อยตามตัว
- ระยะปลอดอาการ Latency and Shedding ช่วงนี้เชื้ออยู่ในร่างกายโดยที่ไม่เกิดอาการอะไร เชื้ออาจจะแบ่งตัวและสามารถติดต่อได้โดยเฉพาะเชื้อที่อวัยวะเพศแม้ว่าจะไม่มีผื่น
- อาการกลับเป็นซ้ำ Recurring Infections มีอาการน้อยกว่า และเป็นพื้นที่น้อยกว่าไม่ค่อยมีไข้ และมักเป็นบริเวณใกล้กับที่เดิม โดยเฉพาะที่อวัยวะเพศอาจจะกลับเป็นซ้ำได้ 5 ครั้งต่อปี
ใครมีปัจจัยเสี่ยงในการได้รับเชื้อ Herpes simplex
ทุกๆคนจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Herpes simplex โดยเชื้อ (HSV-1) จะติดต่อทางสารหลั่งในปาก ส่วน (HSV-2) จะติดต่อทางอวัยวะเพศ ทวารหนัก เมื่อเชื้อเข้าทางผิวหนังเชื้อจะไปตามเส้นประสาททำให้เชื้อลามเป็นบริเวณกว้างและอาจจะเกิดผื่นที่บริเวณใหม่
- ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อเริมที่ปากคือวัยเด็กอายุ 4-5 ปีมักติดต่อทางการสัมผัสเช่นการใช้ของร่วมกัน การจูบ ไม่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เชื้อนี้สามารถติดต่อจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งโดยเฉพาะที่ตาโดยการสัมผัสด้วยมือดังนั้นต้องล้างมือให้สะอาด
- ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อเริมที่อวัยวะเพศมักเกิดในผู้ที่มีคู่ขาหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก oral sex ซึ่งเชื้อที่เป็นสาเหตุมักจะเป็น type 1 การป้องกันการติดเชื้อควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยาง ขณะมีอาการติดเชื้อ
- การเป็นเริมในทารกมักจะติดเชื้อในแม่ที่ติดเชื้อ HSV-2 และมีการคลอดก่อนกำเนิดหรือต้องใช้เครื่องมือในการคลอด เพราะไม่ติดต่อทางสายสะดือ
- ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่นเช่น นักมวยปล้ำ นักรักบี้ นักมวย ผู้ป่วยโรคเอดส์
มีการศึกษาว่าแม้จะไม่มีผื่น หรืออาการเชื้อก็สามารถแพร่ออกมาได้ ดังนั้นไม่มีหลักประกันว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่มีอาการจะปลอดภัยจากโรคเริม
สนใจการตรวจสุขภาพสอบถามได้ที่ healthlabclinic หรือ มหาชัยทีแแอลซี