การดื่มน้ำ มีผลกระทบต่อร่างกายเราแค่ไหนรู้ไหมครับ
ปกติร่างกายของเรานั้นจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มากกว่า 70% โดยที่ร่างกายของผู้หญิงจะมีปริมาณของน้ำน้อยกว่าในผู้ชาย เพราะผู้หญิงจะมีเซลล์ไขมันมากกว่า ซึ่งเซลล์ไขมันนั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบเพียง 10 – 15 % ขณะที่เซลล์กล้ามเนื้อจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบ 70 – 75% จากปริมาณที่กล่าวมานั้นทำให้น้ำมีความสำคัญต่อชีวิตของคนเรามาก
บทบาทของน้ำมีผลต่อร่างกายคนเราอย่างไรบ้างมาดูกันครับ เป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะ เลือด เป็นตัวทำละลายของสาร และนำไปสู่การใช้งานของร่างกาย เช่น วิตามินซี และกลุ่มวิตามินบีต่างๆ ขับถ่ายของเสียในร่างกาย และช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เป็นอย่างไรครับ ที่ว่ามาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เห็นไม่ครับว่าน้ำมีบทบาทที่สำคัญมากกับร่างกายคนเรา ผมจึงอยากนำเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำมานำเสนอกัน มาดูเรื่องราวเกี่ยวกับการดื่มน้ำกันเลยครับ
การดื่มน้ำ เท่าไรถึงจะดี
เรื่องแรกที่เราควรรู้เกี่ยวกับน้ำ คือ เราควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน หลายคนคงเคยได้รับรู้มาว่า คนเราควรดื่มน้ำประมาณวันละ 8 แก้ว โดยเฉลี่ย เรื่องนี้ก็เป็นวิธีการดื่มที่เข้าใจได้ง่าย แต่วันนี้ผมมีสูตรในการคำนวณ ปริมาณการดื่มมาฝากกันครับ
สูตรคือ (น้ำหนักตัว(กก.)X 2.2 X 30)/2 หน่วยที่ได้คิดเป็น “มิลลิลิตร” ครับ
ตัวอย่าง คุณหนัก 60 กก. ควรดื่มน้ำ = (60 X 2 X 30)/2 = 1,980 มิลลิลิตร ครับ ดังนั้นถ้า น้ำ 1 แก้ว 200 มิลลิลิตรก็ต้องดื่ม ประมาณ 10 แก้ว/วัน ครับ ทีนี้เราก็จะรู้แล้วล่ะครับ ว่าเราควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไร ในแต่ล่ะวัน
เรื่องที่สอง การดื่มน้ำแต่ล่ะครั้งให้เป็นการดื่มในปริมาณครั้งล่ะไม่มาก แต่บ่อยๆ ครับ ไม่ใช่ว่าพอกระหายมาก็ดื่มเอาๆ ไม่มีประโยชน์ครับ แต่ล่ะครั้งที่ดื่มน้ำมากจะมีส่วนที่จำเป็นกับร่างกายส่วนหนึ่ง ที่เหลือจะถูกขับออกหมด เพราะเกินความจำเป็นต่อการใช้งาน ผมอยากยกตัวอย่างเทียบกับการรดน้ำต้นไม้ ถ้าเราลองสังเกต เวลารดน้ำต้นไม้ ถ้าเรารดน้ำมากและปริมาณน้ำไหลแรง จะเห็นน้ำนองอยู่ ถ้าเป็นการรดน้ำในกระถางที่มีดินร่วนในกระถางจะเห็นน้ำไหลออกที่ก้นกระถาง ครับ นั้นล่ะครับที่ผมอยากบอกคือประมาณน้ำที่ต้นไม้ได้จะมีเพียงเล็กน้อย
เพราะการดูดซึมจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่องเหมือนกันกับร่างกายคนเรา การดื่มน้ำบ่อยๆ ในปริมาณไม่มาก อาจจะครั้งละ 1 แก้ว จะทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าครับ อีกปัญหาหนึ่งสำหรับเรื่องนี้คือ คนที่เข้าใจว่าดื่มครั้งละมากๆ แต่น้อยครั้งนั้นได้ปริมาณน้ำเท่ากับคนที่ดื่มน้ำไม่มากแต่บ่อยๆ นั้นเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก เป็นอีกเรื่องที่อยากทำความเข้าใจกับการดื่มน้ำ
เรื่องที่สามเราควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง หรือ อุณหภูมิปกติ ครับ เพราะหากน้ำที่เราดื่มนั้น เย็น หรือ ร้อนเกินไปนั้นจะมีผลกระทบต่อร่างกาย น้ำร้อนผมคงไม่ต้องพูดถึง สำหรับน้ำเย็นนั้นจะมีผลกับเรื่องของการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายคนเรา ถัดมาก็จะเป็นเรื่องของระบบย่อยครับ เอนไซม์ในการย่อยหลายตัวนั้นทำงานได้ดีที่อุณหภูมิ 25 – 30 ◦C น้ำเย็นจะทำให้ระบบทำงานได้ไม่ดีครับ ในส่วนของกระเพาะอาหารเมื่อเจอน้ำเย็นก็ไปทำให้การทำงานนั้นทำได้ไม่ดีเช่นกัน
เรื่องที่สี่น้ำที่ควรดื่มคือ น้ำธรรมดาจะเป็นน้ำแร่ก็ได้ แต่สำหรับน้ำอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ น้ำหวาน น้ำอัดลม หรือน้ำอื่นๆ ที่มีส่วนผสมนั้น ทานได้แต่ให้ประโยชน์ไม่เท่ากับก
ารดื่มน้ำเปล่าครับ สำหรับบางคนการทานน้ำเปล่ายังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย
สุดท้ายใน 1 วันเราควรดื่มน้ำเวลาไหนบ้าง
- ตื่นนอนมาก่อนแปรงฟัน อย่างน้อย 1 แก้วครับ
- ก่อน และหลัง ทานอาหาร แต่อย่ามากเกินไปน่ะครับ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในการย่อยอาหารเจือจางและทำให้ท้องอืดได้ครับปริมาณก็สัก 1 แก้วก่อนทานอาหารสัก 15-30 นาที และหลังทานอาหารสัก 1 แก้ว
- ระหว่างวัน ก็ 1 – 2 ชั่วโมง 1 แก้ว
- สุดท้ายก่อนนอน สัก 1 ชั่วโมง อีก 1 แก้วครับ
- สำหรับคนที่ออกกำลังกายให้ทานน้ำ สัก1-2 แก้วก่อนออกำลังกายประมาณ 30 นาที และระหว่างออกำลังกายทุกๆ 20 นาทีโดยเป็นการจิบเพื่อแก้กระหายน้ำครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับเรื่องราวของการดื่มน้ำ ผมหวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ หากผู้อ่านท่านใดมีเรื่องราวที่สนใจ หรือสงสัย ส่งความสงสัยมาให้เราได้ครับ แล้วพบกันใหม่น่ะครับ ^^
“ สุขภาพ ดีๆ ที่ดูแลได้ด้วยตัวคุณเอง ”