fbpx
เบาหวาน

WHO ชี้ เบาหวาน อันตรายเทียบเท่า เอดส์

[พญ.พรรณพิมล วิปุลากร โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปี 2548 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ โรคเบาหวาน เป็นโรคที่อันตรายเทียบเท่า โรคเอดส์

เนื่องจากแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจาก เบาหวาน ประมาณ 3.2 ล้านคน ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ราว 3 ล้านคน โดยรายงานล่าสุดขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วย เบาหวาน กว่า 371 ล้านคน หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นเป็น 552 ล้านคน ในปี 2573 สำหรับประเทศไทยจากการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน ปี 2554 พบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่กว่า 300,000 คน โดย 1 ใน 3 ไม่รู้ตัวว่าป่วย และพบคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเสี่ยงป่วยเบาหวานอีก 2.4 ล้านคน สาเหตุเพราะบริโภคน้ำตาลสูงถึงคนละ 29.6 กิโลกรัมต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 20 ช้อนชา ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน 3 เท่า ทั้งที่ WHO กำหนดให้บริโภคน้ำตาลเฉลี่ยคนละ 6-8 ช้อนชาหรือประมาณ 24 กรัมต่อวัน หรือไม่เกินคนละ 10 กิโลกรัมต่อปี

“ที่สำคัญพบว่ามีคนไทย 17 ล้านคน ดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มรสหวานจัดอื่นๆ ทุกวัน โดยในน้ำอัดลม 1 กระป๋องขนาดบรรจุ 325 ซีซี มีปริมาณน้ำตาลทราย 35 กรัม บางครัวเรือนนิยมแช่น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มรสหวานจัดอื่นๆ ในตู้เย็นไว้ดื่มแทนน้ำเปล่า เพราะเชื่อว่าดื่มแล้วจะสดชื่นกว่าน้ำเปล่าทั่วไป ซึ่งจะเป็นอันตรายจะเป็นการสร้างค่านิยมติดหวานเพิ่มความเสี่ยงเป็นเบาหวาน”

WHO ชี้ เบาหวาน อันตรายเทียบเท่า เอดส์


พญ.พรรณพิมล กล่าวอีกว่า โรคเบาหวานพบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาการของโรคจะค่อยเป็นค่อยไป เป็นภัยที่เกิดเงียบๆ สัญญาณเตือนของโรคเบาหวานในผู้ใหญ่ ได้แก่ ปัสสาวะบ่อยและมากกว่าปกติ คอแห้ง กระหายน้ำ และดื่มน้ำมากผิดปกติ หิวบ่อย กินจุแต่น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ซึมและหายใจหอบเหนื่อยง่าย ปัสสาวะทิ้งไว้มีมดตอม เป็นแผลเรื้อรัง แผลหายช้า คันตามผิวหนัง หากมีอาการเหล่านี้ขอให้พบแพทย์ ส่วนในเด็ก ผู้ปกครองสามารถสังเกตได้จากน้ำหนักตัวและรูปร่างของลูกว่าเริ่มมีภาวะอ้วน หากมีรอยดำปรากฏที่รอบต้นคอ ใต้รักแร้หรือขาหนีบ ถูไม่ออก เด็กบางรายอาจปัสสาวะรดที่นอนตอนกลางคืนขอให้สงสัยว่าลูกอาจเป็นเบาหวานและพาไปพบแพทย์

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2557 สธ.จะให้สถานบริการทั่วประเทศ ตรวจคัดกรองเบาหวานครอบคลุมคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทุกพื้นที่ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 เพื่อให้การดูแล ให้คำปรึกษา และความรู้การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ทั้งผู้ที่ยังไม่ป่วย ผู้ที่เสี่ยงป่วย และผู้ที่ป่วยแล้ว เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยใช้หลัก 3อ.2ส.ได้แก่ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ ปลาและเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รสหวานหรือเค็มเกินไป ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ และน้ำอัดลม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละอย่างน้อย 3 วัน วันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ทำจิตใจอารมณ์ให้แจ่มใส งดสูบบุหรี่ และงดดื่มสุรา นอกจากนี้

 ควรจำกัดชั่วโมงการเล่นคอมพิวเตอร์และดูโทรทัศน์ของลูกหลานไม่ให้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวันเนื่องจากเด็กจะกินอาหารเพิ่มขึ้น

“สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดใน 3 เรื่องคือ ควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยาควบคุมอาการ เพราะโรคนี้ยังไม่มียารักษาหายขาด ซึ่งการปฏิบัติตัวดังกล่าว จะช่วยให้การรักษาของแพทย์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” โฆษก สธ.กล่าว

ติดต่อสอบถาม หรือ นัดหมายได้ที่

มหาชัย ทีแอลซี สาขา มหาชัย
เฮลท์แลป สาขา อ่อนนุช
เฮลท์แลป สาขา หัวหิน
นุชรัตน์เฮลท์แลป สาขา หัวนา

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความยอดนิยม

มหาชัย ทีแอลซี สาขา มหาชัย
เฮลท์แลป สาขา อ่อนนุช
เฮลท์แลป สาขา หัวหิน
นุชรัตน์เฮลท์แลป สาขา หัวนา
เลือกช่องทางนัดหมาย
MAHACHAI TLC MAHACHAI BRANCH
HEALTH LAB HUA HIN BRANCH
NUTRAT HEALTH LAB (HUA NA – SOI 112)
Appointment
HEALTH LAB ON NUT BRANCH

You cannot copy content of this page