fbpx
ภูมิแพ้

ภูมิแพ้ เฉียบพลัน

ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรค “ภูมิแพ้” เพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่า 

โดยพบในเด็กสูงถึง 38% และในผู้ใหญ่ 20% โดยมีปัจจัยจากกรรมพันธุ์ มลภาวะ และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

ภูมิแพ้ คืออะไร?

โรค ภูมิแพ้ คือ ภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่อสารกระตุ้นไวกว่าปกติ และแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ จนเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ที่มีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป โดยสารกระตุ้นที่ก่อให้เกิดการแพ้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ความรุนแรงของอาการแพ้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับ โดยที่สารก่อภูมิแพ้มีทั้งการรับเข้าร่างกายจากการสูดดม การรับประทาน การสัมผัส ซึ่งแต่ละคนจะแพ้ไม่เหมือนกันและมีความรุนแรงของอาการแตกต่างกันไป 

อาการของโรค ภูมิแพ้

อาการของโรคภูมิแพ้ถูกแบ่งออกตามอาการแพ้ที่เกิดขึ้นกับแต่ละระบบของร่างกาย 

  1. ภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ ไอ จาม น้ำมูกไหล จมูกตัน ทางเดินหายใจตีบ หอบ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ไม่สามารถหายใจได้ 
  2. ภูมิแพ้ทางตา ระคายเคืองตา น้ำตาไหล บวม แดง อักเสบ  
  3. ภูมิแพ้ทางผิวหนัง ผื่น คัน แสบ ลอก ลมพิษ 
  4. ภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นหลายระบบพร้อมกัน เกิดอาการผิดปกติในหลายระบบพร้อมกัน และอาจรุนแรงจนเกิดอาการช็อคได้ 

ภูมิแพ้ แต่ละช่วงวัย

ในแต่ละช่วงวัยอาจแสดงอาการของโรคภูมิแพ้แตกต่างกันไป บางครั้งอาจจะแพ้ตอนเด็ก แต่ตอนโตไม่แพ้ หรือไม่เคยแพ้อะไรเลยแต่เพิ่งมาแพ้ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยมีสาเหตุจากการที่สภาพแวดล้อม การดูแลตัวเอง ความแข็งแรงของร่างกาย ที่เป็นตัวแปรในการตอบสนองต่อสารกระตุ้นภูมิแพ้ อาจจะมีความเชื่อเรื่องการโดนบ่อยๆก็หายแพ้ไปเอง แต่จริงๆแล้วทฤษฎีนี้เป็นเพียงความเชื่อ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต

การตรวจ ภูมิแพ้

การตรวจภูมิแพ้ในปัจจุบัน อันที่จริงคือการตรวจสารกระตุ้นภูมิแพ้ การตรวจภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อที่จะหาสารกระตุ้นภูมิแพ้ที่ส่งผลต่อร่างกาย โดยมีจุดประสงค์ให้สามารถหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ 

การตรวจโรคภูมิแพ้ในปัจจุบันมี 2 วิธีที่ได้รับความนิยม 

  1. การตรวจแบบ Skin Prick test คือ การใช้ปลายเข็มสะกิดตื้นๆบนชั้นผิวหนัง และหยดสารก่อภูมิแพ้ลงไป แล้วรอ 15-20 นาที เพื่อดูการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้บนผิวหนัง 
  2. การเจาะเลือดหาภูมิต่อต้านสารก่อภูมิแพ้ชนิด immunoglobulin E (IgE) เป็นการเจาะเลือดเพื่อดูค่า IgE เฉพาะสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิดในเลือด ซึ่งค่อนข้างมีความแม่นยำ และตรวจสารก่อภูมิแพ้ได้หลากหลายกว่า 

การรักษา ภูมิแพ้

เมื่อเกิดอาการภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเฉียบพลันหรือเรื้อรัง สิ่งแรกที่ควรทำคือหลีกเลี่ยงหรือหยุดการรับสารก่อภูมิแพ้ ทานยาแก้แพ้ และรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นกับแต่ละระบบ 

  • ภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ ล้างจมูก รับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ไอ ลดน้ำมูก 
  • ภูมิแพ้ทางตา ล้างตาด้วยน้ำยาล้างตา หยอดตาเพื่อลดการระคายเคือง 
  • ภูมิแพ้ทางผิวหนัง ทายาแก้คัน เช่น คาลาไมน์ โลชั่นต่างๆ ดูแลผิวอย่าให้แห้งและสูญเสียความชุ่มชื่น เพราะจะทำให้เกิดอาการอักเสบ 
  • ภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นหลายระบบพร้อมกัน รับประทานยาแก้แพ้ ทานยาตามอาการและหากอาการไม่ดีขึ้นหรือคงที่ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล 

การดูแลสุขภาพ

การรักษาโรคภูมิแพ้ที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ นั่นหมายถึงคุณอาจต้องได้รับการตรวจและวินิจฉัย เพื่อหาสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลต่อร่างกาย และสามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยสิ่งสำคัญของการดูแลร่างกายให้แข็งแรง เพื่อลดอาการจากโรคภูมิแพ้ คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรง 

ตรวจ ภูมิแพ้

แพ็คเกจเจาะเลือดเพื่อตรวจหาภูมิต่อต้านสารก่อภูมิแพ้ชนิด immunoglobulin E (IgE)

เป็นการ เจาะเลือด เพื่อดูค่า IgE เฉพาะสารก่อ ภูมิแพ้ แต่ละชนิดในเลือด ซึ่งค่อนข้างมีความแม่นยำ และตรวจสารก่อ ภูมิแพ้ ได้หลากหลายกว่า ตรวจหาสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือ ภูมิแพ้ ทั้งหมด 44 รายการ จากการแพ้แบบเฉียบพลัน หรือ เกิดอาการทันที หลังจากสัมผัส 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

ประกอบด้วย

  • สารกระตุ้นภูมิแพ้จากอาหาร 20 รายการ
  • สารกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม 24 รายการ

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง 
  • ผู้ที่ไม่สามารถหยุดยาแก้แพ้เพื่อเข้ารับการตรวจแบบ Skin Prick Test ได้ 
  • สามารถตรวจได้ในเด็ก 
  • บุคคลทั่วไป ที่มีอาการแพ้และต้องการผลตรวจอย่างแม่นยำ เพื่อการหลีกเลี่ยงสารที่แพ้  

ติดต่อสอบถาม หรือ นัดหมายได้ที่

มหาชัย ทีแอลซี สาขา มหาชัย
เฮลท์แลป สาขา อ่อนนุช
เฮลท์แลป สาขา หัวหิน
นุชรัตน์เฮลท์แลป สาขา หัวนา

You cannot copy content of this page