เราอาจจะคุ้นเคยกันว่า “ โรคตับแข็ง ” นั้นเกิดจากการดื่มเหล้า แต่คุณรู้หรือๆไม่ว่ามันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป นั่นก็เพราะว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะตับแข็งนั้น มีมากมายและพัฒนาความเร็วในการปรากฏโรค ตาม Lifestyle ของคนยุคใหม่
โรคตับแข็ง เกิดจากพังผืดที่ตับพยายามซ่อมแซมตนเองจากการอักเสบ เมื่ออักเสบบ่อยครั้งเข้าก็ต้องซ่อมแซมตัวเองบ่อยๆ จนเกิดเป็นพังผืดจำนวนมาก ที่มีลักษณะเป็นพังผืดแข็งๆ เราจึงเรียกว่า โรคตับแข็งนั่นเองครับ
ทีนี้เรามาย้อนดูปัจจัยต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่ก่อให้เกิดอาการตับอักเสบและพัฒนาไปเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับในอนาคตกันนะครับ
1.อาหารหวาน มัน เค็ม ไขมันสูง – อาหารเหล่านี้นำเราไปสู่ภาวะอ้วน และไขมันสะสม ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะไขมันพอกตับหรือ Fatty Liver นั่นเองครับ และแน่นอนว่าในปัจจุบัน อาหารสมัยนี้ก็ล้วนอร่อย อุดมไปด้วยรสชาติอันจัดจ้านและไขมัน พร้อมทั้งสื่อโฆษณา และบริการจัดส่งถึงที่ ทำให้เราหักห้ามใจได้ยาก และบริโภคเกินความจำเป็นของร่างกายนั่นเอง
2. แอลกอฮอล์ – แน่นอนว่าการดื่มแอลกอฮอล์ยังคงเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของตับแข็ง เพราะว่าตับนั้นมีหน้าที่จัดการกับแอลกอฮอล์โดยตรง ยิ่งเราดื่มมาก ตับยิ่งต้องทำงานหนักเพื่อจัดการกับแอลกอฮอล์ จนกลายเป็นการอักเสบเรื้อรังครับ
3.ไวรัส – ไวรัสตับอักเสบนั้น ประกอบไปด้วยไวรัสหลายชนิดที่ A B C E และเชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น Cytomegalo virus (CMV) Epstein-Barr virus (EBV) Herpes Simplex virus (HSV) เชื้อไวรัสไข้เลือดออก (Dengue) ที่สามารถส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาการตับอักเสบจากไวรัส มักจะเป็นการอักเสบแบบฉับพลัน แต่ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง และนำไปสู่ตับแข็งในที่สุด
4.การบริโภคยาเกินขนาด – แม้ยาจะมีประโยชน์ แต่หากใช้ผิดวิธีก็อาจจะมีโทษมหันต์ ในยาหลายๆประเภทนั้น หากได้รับเกินขนาดหรือต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ และนำไปสู่ภาวะตับแข็งได้เช่นเดียวกัน อาทิ พาราฯ คีโตโคนาโซล เป็นต้น
แน่นอนว่าตับต้องดูแล แต่ชีวิตก็ต้องใช้ เราจะทำอย่างไร ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ โดยที่ตับยังอยู่คู่ร่างกายเราไปนานๆ หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เต็มที่ รับประทานยาเท่าที่จำเป็น และตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำเพื่อให้ตับอยู่กับเราไปนานๆ