มารู้จัก ไวรัส EBV ที่ก่อ “โรคจูบ” โรคที่มีมานาน แต่ไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก
ไวรัส EBV (Epstein-Barr virus) หรือ Human herpesvirus 4 (HHV4) สายพันธุ์ไวรัสที่ใกล้ชิดกับเริม เป็นไวรัสที่พบในมนุษย์มายาวนานหลายพันปี ว่ากันว่าคนส่วนใหญ่ติดเชื้อตัวนี้กันมาแล้วทั้งนั้น แค่คุณไม่รู้ตัว
EBV เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อโรคได้หลายโรค แต่ที่ (อาจจะ) รู้จักกันมากกว่านิดหน่อยคือโรคโมโน (Infectious mononucleosis) หรือ โรคจูบ (Kissing disease) เพราะมันติดกันจากการจูบนี่แหละ ติดต่อกันทางน้ำลาย สารคัดหลั่ง การมีเพศสัมพันธ์ ใช้ของร่วมกัน
พอพูดถึงโรคจูบ แสดงว่าโอกาสที่ติดก็ต้องเริ่มตั้งแต่วัยสะรุ่นที่มีประสบการณ์จูบ ไปจนถึงผู้ใหญ่ บ้านเราเองพบว่าวัยรุ่น ช่วงอายุ 12-14 ปี มากกว่า 95% เคยติดเชื้อมาแล้ว และพออายุมากกว่า 35 ปี ก็ติดเชื้อมาแล้วเกือบ 100%
หลายคนไม่ได้คิดว่ามันเป็นเชื้อที่พิเศษอะไร เพราะบางทีติดเชื้อก็ไม่แสดงอาการ แต่ซ่อนตัวอยู่รอจนคุณอ่อนแอ จึงจะแผลงฤทธิ์แสดงตัวแสดงอาการทันที หรือถ้าแสดงอาการก็เล็กน้อยจนบางทีคนเราก็ไม่ค่อยสนใจว่าป่วยเป็นอะไร เช่น เจ็บคอ ต่อมทอลซินอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองโต รวมถึงมีไข้ ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย กินข้าวได้น้อย กินยาแล้วดีขึ้น อาการเหล่านี้ก็หายได้เอง
แต่สำหรับบางคนที่มีอาการรุนแรง มักเกิดจากร่างกายที่ไม่แข็งแรง ป่วยเป็นโรคทางภูมิคุ้มกันบกพร่อง กินยากดภูมิคุ้มกัน เคมีบำบัด บางรายอาจเกิดการติดเชื้อซ้ำจากภายในตัวเองได้ หรือรับเชื้อใหม่จากผู้อื่นซ้ำได้
เมื่อหายแล้วร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ EBV ทำให้เมื่อตรวจเลือดจะพบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ EBV เรียบร้อย (EBV IgM, IgG) ซึ่งจากผลการตรวจ สามารถบอกได้ว่าเพิ่งหายจากการติดเชื้อหรือหายนานแล้ว
โดยสรุป เชื้อ EBV เป็นเชื้อไวรัสในมนุษย์ ร้อยทั้งร้อยติดเชื้อมาแล้วทั้งนั้นเพราะเป็นเชื้อที่อยู่กับตัวมนุษย์ ทำให้ติดเชื้อง่ายจากสารคัดหลั่ง การจูบ เพศสัมพันธ์ ใช้ของร่วมกัน แต่ขณะเดียวกันถึงจะติดเชื้อส่วนใหญ่ก็ไม่แสดงอาการรุนแรง นอกเสียจากว่าภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง หรือต่อให้ติดเชื้อก็หายเองได้ง่าย เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพ เป็นสิ่งสำคัญ กินออาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมที่จะสู้กับมันถ้าต้องติดเชื้อขึ้นมาจริง ๆ