การตรวจโควิดในปัจจุบันมีแบบไหนบ้าง

ตรวจโควิด ในปัจจุบันมีแบบไหนบ้าง

ตรวจโควิด ในปัจจุบันมีแบบไหนบ้าง?

และเราควร ตรวจโควิด แบบไหนดี? วันนี้แอดจะมาแนะนำ เพื่อให้หายข้องใจกัน ^_^

1. การตรวจหาเชื้อ โควิด

📍การตรวจด้วยวิธี RT-PCR เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส

⭐การตรวจแบบ #RT-PCR นี้ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจหา #เชื้อโควิด 19 ในปัจจุบัน โดยมีหลักการตรวจแบบขยายจำนวนเชื้อหรือสารพันธุกรรมของไวรัสมาเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น ถ้ามีเชื้ออยู่ ก็เพิ่มจำนวนให้มากขึ้นจนสามารถตรวจพบได้ โดยจะโชว์ค่า #CT ซึ่งหรือรอบของการทำ PCR นั่นเอง ยิ่ง CT ที่ต่ำแสดงถึงจำนวนเชื้อที่มาก แสดงถึงการมีเชื้อน้อยๆ ก็สามารถตรวจเจอได้

⭐สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ 3-5 วัน ทั้งที่ยังไม่มีอาการ

⭐เก็บสิ่งส่งตรวจ #Nasopharyngeal swab (นิยมมากกว่า) หรือ #Throat swab ซึ่งเก็บยากกว่า ต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญในการเก็บสิ่งส่งตรวจ

⭐ใช้เวลาในการตรวจค่อนข้างนาน

⭐ปัญหาที่พบอีกเรื่องคือ สำหรับคนที่หายแล้ว แต่ยังสามารถตรวจพบซากเชื้ออยู่ได้นานถึง 50 วัน (จากการศึกษา) รู้ได้ยังไงว่าเป็นซากเชื้อ รู้เพราะว่า ลองเอาเชื้อไปเพาะหรือเลี้ยงเชื้อให้โต เหมือนปลูกต้นไม้ แต่มันไม่โต หรืองอกขึ้นมานั่นเอง

📍การตรวจด้วยวิธี Rapid test Antigen

⭐การตรวจแบบนี้ #Rapid test มีข้อจำกัดว่าสามารถตรวจได้แค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่สั้น ๆ คือ หลังติดเชื้อวันที่ 5-7 เท่านั้น ที่จะพบว่ามีเชื้อปริมาณมากพอที่จะตรวจพบได้ ซึ่งต่างจากการตรวจแบบ RT-PCR ที่ตรวจได้ตั้งแต่เพิ่งติดเชื้อได้เพียง 3-5 วัน และยาวไปจนถึง 14 วัน หรือนานกว่านั้น เพราะฉะนั้นการตรวจแบบนี้ อาจจะส่งผล False neagtive หรือผล “ลบลวง” ได้ หมายถึงมีเชื้อจริง แต่น้อยจนตรวจไม่พบ

⭐เก็บสิ่งส่งตรวจ Nasopharyngeal swab (นิยมมากกว่า) หรือ Throat swab ซึ่งเก็บยากกว่า ต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญในการเก็บสิ่งส่งตรวจ

⭐ได้ผลเร็วกว่าประมาณ 15-20 นาที

⭐การตรวจด้วยวิธีนี้ จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับผู้รับบริการให้ครอบคลุมนะคะ

2. การตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด

การตรวจแบบนี้เป็นการตรวจดูว่า มี #ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด หรือไม่

ซึ่งต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ จะถูกร่างกายสร้างขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อนั้น ๆ ในร่างกาย แล้วร่างกายจำเป็นต้องสร้างเกราะป้องกัน หรือที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันเพื่อสู้กับเชื้อโรคขึ้นมา

เพราะฉะนั้นอนุมานได้ว่า คนที่ตรวจพบว่ามีภูมิคุ้มกันขึ้นมา แสดงว่า ติดเชื้อนั้นมาแล้ว อย่างน้อย 7-10 วันขึ้นไป

ทำไมถึงเป็น 7-10 วัน ก็เพราะว่า ร่างกายจะใช้เวลาในการสร้างภูมิคุ้มกัน หลังติดเชื้อแล้วประมาณ7-10 วันนั่นเอง แต่กว่าภูมิจะขึ้นสูงในระดับที่ตรวจเจอ อาจจะต้องรอไปเป็น 10-14 วันเลยทีเดียว และในปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าภูมิคุ้มกันตัวนี้จะอยู่ไปยาวแค่ไหน

📗 การตรวจแบบ Rapid test Antibody

การตรวจแบบนี้เป็นการตรวจเชิงคุณภาพ บอกว่ามีหรือไม่มีภูมิ ก็อาจจะบอกได้ว่าติดเชื้อมาแล้ว เกิน 7-10 วัน ควรจะไปตรวจยืนยันด้วยวิธี RT-PCR ซ้ำอีกครั้งนะคะถ้าต้องการตรวจว่าติดเชื้อโควิดมาหรือเปล่า การตรวจแบบนี้มีข้อจำกัดอยู่นะคะ

☀️ตรวจได้หลังสัมผัสเชื้อมาแล้ว 10-14 วัน เพราะถ้าเพิ่งเสี่ยงมาหรือติดเชื้อมา ร่างกายอาจจะยังไม่สร้างภูมิต้านทาน หรือสร้างมาแล้ว แต่ยังไม่มากพอ

☀️ในกรณีที่รับวัคซีนมาแล้ว การตรวจแบบนี้จะบอกไม่ได้ว่าเกิดภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อมาเอง หรือจากการรับวัคซีน เพราะฉะนั้นถ้าต้องการตรวจเพื่อเช็คว่าติดเชื้อมาหรือเปล่าหลังรับวัคซีน วิธีนี้ใช้ไม่ได้ค่ะ

📕 การตรวจแบบ #Covid 19 Antibody

เป็นการตรวจเชิงปริมาณ สามารถบอกได้ว่ามีภูมิคุ้มกันมากแค่ไหน ซึ่งนิยมนำมาใช้ในการตรวจหาภูมิหลังมีการรับวัคซีนไปแล้ว แต่ในตอนนี้การตรวจแบบนี้ค่อนข้างอยู่ในวงจำกัด แค่บางโรงพยาบาลเท่านั้น

🔸 การตรวจประสิทธิภาพยับยั้งเชื้อโควิด Covid 19 Neutralizing (NT) Antibody

เป็นการตรวจที่บอกประสิทธิภาพการต่อสู้กับเชื้อโควิด หรือยับยั้งเชื้อโควิดเข้าสู่เซลได้กี่เปอร์เซ็น

* เรามาเลือกการตรวจโควิดให้ถูวิธีกันดีกว่านะคะ *

ติดต่อสอบถาม หรือ นัดหมายได้ที่

มหาชัย ทีแอลซี สาขา มหาชัย
เฮลท์แลป สาขา อ่อนนุช
เฮลท์แลป สาขา หัวหิน
นุชรัตน์เฮลท์แลป สาขา หัวนา

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความยอดนิยม

You cannot copy content of this page