ทำความรู้จัก โรครูมาตอยด์ – โรคข้ออักเสบ

สองโรคนี้คือโรคเดียวกันมั้ย? หลายคนมักสงสัย……

คำตอบคือ โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) หรือเรียกในภาษาที่ฟังปุ๊บรู้ปั๊บเลยก็คือ โรคข้ออักเสบ

รูมาตอยด์ ดังกล่าวนี้เกิดจากภูมิต้านทานเราผิดปกติ คือปกติแล้วระบบภูมิคุ้มกันของเราจะทำหน้าที่ปกป้องเราจากสิ่งแปลกปลอม แต่เมื่อวันหนึ่งร่างกายเรากลับเห็นว่าเราเป็นสิ่งแปลกปลอมจึงหันมาทำลายและโจมตีเรา โดยเฉพาะข้อต่อ ข้อพับจนทำให้เกิดการอักเสบหรือที่เรียกว่า ออโต้อิมมูน (Autoimmune) เอ๊ะ! คุ้นๆใช่ไหมล่ะ ใช่!…มันคล้ายกับโรค SLE หรือที่รู้จักในโรคพุ่มพวง แต่ต่างกันที่ตำแหน่งของการเกิดโรค

รูมาตอยด์ เกิดจากข้อต่ออักเสบเรื้อรังตำแหน่งเยื่อหุ้มข้อ การอักเสบนี้จะทำให้เกิดการทำลายกระดูกอ่อน ทำลายเยื่อหุ้มข้อ และกระดูกรอบ ๆ ข้อ สาเหตุการเกิดโรคยังไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่าอาจเกิดจาก

การติดเชื้อแบคทีเรีย
การติดเชื้อไวรัส
การสูบบุหรี่
ความเครียด
ความผิดปกติของยีน หรืออื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในเพศหญิง

โรครูมาตอยด์ไม่เป็นเพียงข้ออักเสบเรื้อรัง แต่ยังส่งผลกระทบต่อข้อต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน ตึง กระดูกผิดรูป บิดงอ ทำให้เกิดทุพลภาพหรือพิการตามมาได้

นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบโดยสร้างความเสียหายต่ออวัยวะอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ดวงตา หัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ ผิวหนัง หลอดเลือดและเส้นประสาทได้อีกด้วย ซึ่ง มักเกิดกับผู้หญิงที่มีอายุ 30 – 50 ปี โดยอาการจะเริ่มจากการปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ปวดตามข้อมือ ข้อเท้า หากเราปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้เกิดความรุนแรง กระดูกผิดรูปและเสียชีวิตได้ อ่าว! แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นหรือไม่หรือแค่อาการปวดข้อธรรมดา

แน่นอนค่ะ การตรวจเลือดวินิจฉัยช่วยคุณได้ เช่น

การตรวจ Rheumatic Factor (RF)
การตรวจแอนติบอดีชนิด Anti-CCP
การตรวจอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดง (ESR)

ทั้งนี้การวินิจฉัยในระยะเริ่มแรกเป็นไปได้ยากดังนั้น นอกจากจะตรวจเลือดแพทย์ต้องดูอาการ ทำการทดสอบและสอบถามประวัติควบคู่ไปด้วย โรครูมาตอยด์เป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย ดังนั้น หากเรามีอาการจาก 4 ใน 7 อาการเหล่านี้ ลองไปตรวจเลือดหรือไปปรึกษาแพทย์หน่อยคงดีไม่น้อย

7 อาการที่บ่งชี้ว่าคุณอาจเป็นโรคอักเสบรูมาตอยด์