“หูด” ที่หลาย ๆ คนเคยเป็น แต่คุณคงไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนักใช่ไหม ????
ถ้าใช่ คุณอาจจะชะล่าใจไปมากแล้วล่ะ……หูดเกิดขึ้นได้ยังไง ยังสงสัยอยู่
เดี๋ยวฉันจะบอกให้ “หูด” เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ( Human papilloma Virus ; HPV )
ซึ่งเชื้อ HPV ชนิดที่ 6 และ 11 เป็นเชื้อที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศมากกว่า 90% เลยทีเดียว หูดที่อวัยวะเพศเป็นโรคติดต่อที่มีการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก ซึ่งมักจะปรากฏขึ้นประมาณ 3 เดือนหลังจากได้รับเชื้อ ในบางกรณีอาจไม่มีอาการนานหลายปี
ที่บอกว่าคุณชะล่าใจเกินไปนั้นเพราะนอกจากเชื้อ HPV จะก่อให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศแล้วยังก่อให้เกิดมะเร็งอวัยวะเพศในชาย มะเร็งทวารหนัก มะเร็งปากหรือช่องคอได้ด้วย มาถึงตรงนี้คุณคงอุทานว่า คุณพระ!!!! แล้วล่ะ
จากงานวิจัยพบว่า ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) มักจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV สูง และในผู้ชายที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย จะมีความเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อ HPV ที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งในช่วงชีวิตเราอาจเคยติดเชื้อ HPV มาแล้วก็ได้เพราะ HPV มีกว่าร้อยชนิด แต่ด้วยที่ร่างกายภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ดี ทำให้สามารถกำจัดเชื้อออกไปได้ หากเรามีการติดเชื้อตัวเดิมร่างกายเราอาจมีภูมิคุ้มกันเรียบร้อยแล้ว แต่หากเป็นเชื้อชนิดอื่นที่เราไม่มีภูมิคุ้มกัน และอยู่ในช่วงที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอร่างกายอาจกำจัดเชื้อออกไปไม่ได้หรือกำจัดออกไปได้แต่ไม่หมดทำให้เกิดการติดเชื้อจนอาจนำไปสู่มะเร็งได้
เรามักจะรับเชื้อมาจากการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อ เนื่องจากส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตัวเองมีเชื้ออยู่ ดังนั้น การสวมถุงยางอนามัยจึงไม่สามารถป้องกันเชื้อได้ 100% การเปลี่ยนคู่นอนจึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับเชื้อ HPV นอกไปจากนี้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เนื่องจากการติดเชื้อ HIV มีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อ HPV แล้วพัฒนาไปเป็นมะเร็ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็งที่รุนแรงและยากต่อการรักษา
มะเร็งอวัยวะเพศชายสามารถนำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงเนื้อเยื่อในอวัยวะ เช่น มีสีคล้ำขึ้น ผิวหนังหนาขึ้นเนื่องจากเนื้อเยื่อสะสม และอาการเจ็บหรือปวดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่อวัยวะเพศหรืออาจมีเลือดออกได้
เชื้อ HPV ไม่ใช่มะเร็ง!! แต่เป็นเชื้อที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่อาจนำไปสู่โรคมะเร็ง อยากตรวจหาเชื้อ HPV ตอนนี้ก็สามารถตรวจได้จากปัสสาวะแล้วนะคะ
ดังนั้น การป้องกันที่ได้ผลดีที่สุดคือ การไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย การฉีดวัคซีนซึ่งต้องได้รับการตรวจก่อนว่า ไม่มีเชื้อ HPV ที่ 6, 11, 16 และ 18 วัคซีนถึงจะทำงานได้เต็มที่