เป็นเรื่องธรรมดามาก ที่หลายคนไม่มีอาการใดๆหลังจากที่มีการติดเชื้อ แถมยังสามารถหายไปได้เองด้วย แต่การติดเชื้อ เอชพีวี (HPV) บางชนิด สามารถนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งทางทวารหนักได้ ทำไมถึงมีทั้งคนหายได้เองและเป็นมะเร็งล่ะ

ก็เนื่องจากที่ร่างกายเราโดยปกติ หากได้รับเชื้อ เอชพีวี (HPV) จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันและกำจัดเชื้อเอชพีวี (HPV) ออกไปได้ แต่ด้วยที่เชื้อ เอชพีวี (HPV)ไม่ได้มีเพียงสายพันธุ์เดียว แต่มีกว่าร้อยสายพันธุ์ และมากกว่า 50 สายพันธุ์ที่ก่อโรคในคน ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายอ่อนแอ ไวรัสที่อยู่ในร่างกายก็สามารถทำร้ายเราได้ ยิ่งเมื่อมีเพศสัมพันธุ์แล้วเยื่อบุฉีกขาด เชื้อจะฝังตัวในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ดี เมื่อเชื้อมันเจริญเติบโตและพัฒนาจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ของปากมดลูก เราจึงมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกในเวลาต่อมา

เชื้อ เอชพีวี (HPV) สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (Low risk type)

ได้แก่ HPV สายพันธุ์ที่ 6 และ 11 มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งได้น้อย โดยส่วนใหญ่มักจะทำให้เกิดหูดหงอนไก่  ประมาณ 90% ซึ่งอาจจะค่อยๆพัฒนาไปสู่มะเร็งได้

ส่วนสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง (High risk type)

ได้แก่ สายพันธุ์ที่ 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 68, 69, 73, 82 ที่จะทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุปากมดลูกหรือมีรอยโรคก่อนนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก  และชนิดที่ 16, 18 สองสายพันธุ์นี้เป็นชนิดที่สำคัญเพราะหากมีการติดเชื้อแล้วมักจะก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70%

แต่ด้วยปัจจุบันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็เช่นกัน

ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหาเชื้อ HPV โดยตรง ซึ่งเป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเออ็นเอ เป็นเทคนิคขั้นสูงแบบ Real-time PCR โดยเป็นการตรวจระดับชีวโมเลกูลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวี (HPV)ได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้สามารถป้องกันและรักษาเชื้อเอชพีวีได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก

ความพิเศษของการตรวจนี้ คือสามารถตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อไวรัส เอชพีวี (HPV) ชนิดเที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 14 สายพันธุ์ และที่สำคัญที่สุดคือ สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบมากถึง 70-80%  

การตรวจพบได้เร็วจะช่วยให้ทราบความเป็นไปของสุขภาพร่างกายตัวเอง  เพื่อวางแผนการดูแลและการพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจเพื่อเช็คความพร้อมก่อนฉีดวัคซีน HPV ได้อีกด้วย เพราะวัคซีนมะเร็งปากมดลูกจะมีภูมิต่อเชื้อ HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ดังนั้น หากตรวจหาเชื้อเอชพีวี (HPV)แล้วยังไม่ได้รับเชื้อก็จะได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนสูงสุด

สำหรับผู้ที่สนใจการตรวจดู Urine HPV DNA Test คลิก ตรวจหาเชื้อไวรัส HPV สาเหตุมะเร็งปากมดลูกจากปัสสาวะ

#คลินิก#แลบ#ตรวจ#เลือด#ปัสสาวะ#ร่างกาย#สุขภาพ#ประจำปี#ใบสั่ง#แพทย์#ก่อนเข้างาน#สมุทรสาคร#มหาชัย#ทีแอลซี#เฮลท์แลบ#ประจวบคีรีขันธ์#หัวหิน#หัวนา#HPV#มะเร็งปากมดลูก