ถ้าถามว่าฮอร์โมนใดสำคัญที่สุดในเพศชายก็ต้องขอบอกดัง ๆ เลยว่า คือ “เทสโทสเตอโรน”(Testosterone) นั่นเอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่กระตุ้นให้ร่างกายแสดงลักษณะความเป็นชายออกมา หลัก ๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและกระดูก นั่นจึงทำให้เพศชายที่สามารถผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้มาก จึงมีขนาดตัวใหญ่กว่าเพศหญิงที่สามารถสร้างได้น้อยกว่านั่นเอง ทำให้อวัยวะเพศและอัณฑะโตขึ้น ผลิตสเปิร์ม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเพศชายที่แท้จริง และทำให้เกิดความต้องการทางเพศ
สำหรับผู้หญิง แม้ว่าฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนจะไม่ใช่ฮอร์โมนหลักที่สำคัญ แต่ก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายรักษาระดับอารมณ์ทางเพศได้และยังช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย
ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายจะพบสูงที่สุดในช่วงอายุประมาณ 20 ปี แล้วจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ในผู้ชายที่มีอายุมากหรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ การเป็นโรคบางอย่างจะทำให้ระดับเทสโทสเตอโรนต่ำลงได้ ในผู้ที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงนั่นมักไม่มีผลอะไรต่อร่างกายมาก
– – แต่ในผู้ที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำนั่น จะเป็นที่น่ากังวลใจมากกว่า เพราะจะส่งผลทำให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง เกิดการสะสมของไขมันมากขึ้น ดังนั่นจึงจะเห็นได้ว่าผู้ชายที่มีอายุเยอะขึ้นจะมีพุงน้อย ๆ ให้ได้เห็น แถมร่างกายยังผลิตอสุจิได้น้อยลง อวัยวะเพศชายแข็งตัวไม่สมบูรณ์ ความต้องการทางเพศลดลง – –
แค่ได้อ่านก็ยังรู้สึกได้ว่ามันช่างน่าหดหู่ที่ต้องสูญเสียความแข็งแรง และอาจจะสูญเสียสัญชาตญาณความเป็นชายไป
ก็อย่าเพิ่งกังวลกันไปเลยค่ะ เพราะว่าภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำสามารถรักษาได้นั่นเอง โดยขั้นตอนแรกก็ต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาระดับของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่
โดยหากมีฮอร์โมนอยู่ในระดับต่ำ ก็มีวิธีที่สามารถรักษาได้หลากหลายวิธี เช่น การฉีดฮอร์โมนหรือ การให้รับประทานยา แต่ถ้าหากว่าไม่อยากจะให้ถึงจุดที่ต้องมีการรักษา คุณก็สามารถจะชะลอการลดลงของฮอร์โมนได้ด้วยตัวเองค่ะ โดยเริ่มจากการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันง่าย ๆ ได้แก่ “หยุดเรื่องเครียด” เพราะเมื่อคุณเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดหรือคอร์ติซอล (cortisol) ออกมามากซึ่งจะมีผลให้ไปลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เมื่อไม่มีเรื่องเครียดแล้วก็ควรนอนพักผ่อนให้พียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลด้วยตัวเอง และควรเติมวิตามินดีให้แก่ร่างกายง่าย ๆ โดยการออกไปรับแสงแดดในตอนเช้า เพราะวิตามินดีนั่นนอกจากจะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพิ่มขึ้นอีกด้วย รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ ก็สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ และก็อย่าลืมใส่ใจกับมื้ออาหารด้วยนะคะ เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ค่ะ
